วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Meet the President ประชาคมมหิดลพบอธิการบดี ครั้งที่ 2/2556


เมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ มหาวิทยาลัยมหิดลจัดกิจกรรม “Meet the President ประชาคมมหิดลพบ
อธิการบดี”
ครั้งที่ ๒/๒๕๕๖ ณ ห้องบรรยายศาสตราจารย์นายแพทย์ชัชวาล โอสถานนท์ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โดยมีผู้ร่วมงานจากทุกกลุ่มสายงานของมหาวิทยาลัยมหิดลเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
งาน “Meet the President ประชาคมมหิดลพบอธิการบดี” จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ชาวมหาวิทยาลัยมหิดลได้มีโอกาสพบปะและสื่อสารกับทีมบริหารมหาวิทยาลัย เพื่อการสร้างความเข้าใจอย่างถูกต้องในทิศทางการบริหารงาน เพื่อนำพามหาวิทยาลัยไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ จากการเปิดเวทีให้มีการซักถาม และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นซึ่งกันและกัน โดยได้กำหนดให้มีการจัดงานปีละ ๒ ครั้ง
ศาสตราจารย์นายแพทย์ รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการพัฒนามหาวิทยาลัยมหิดลบนเป้าหมายที่มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก และเป็นปัญญาของแผ่นดิน ซึ่งจากผลการจัดอันดับ QS Asian University Rankings 2013 ตามที่ บริษัท QS (Quacquarelli Symonds) ได้ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในภูมิภาคเอเชีย ประจำปี ๒๕๕๖ (QS Asian University Rankings 2013) บนเว็บไซต์ http://www.topuniversities.com/universityrankings/asian-university-rankings/2013 ซึ่งมีมหาวิทยาลัยของไทยอยู่ใน ๒๐๐ อันดับแรก จำนวน ๙ แห่ง โดยมหาวิทยาลัยมหิดล อยู่ในอันดับที่ ๔๒ นอกจากนี้ ในปีนี้ QS ยังได้ประกาศผลการจัดอันดับ QS World University Rankings by Subject 2013 จำนวน ๓๐ สาขา โดยมหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับการจัดอันดับใน ๓ สาขาวิชา คือ Pharmacy & Pharmacology อยู่อันดับที่ ๕๑ – ๑๐๐, Medicine อยู่อันดับที่ ๑๐๑ – ๑๕๐และ Biological Sciences อยู่อันดับที่ ๑๕๑ - ๒๐๐
สำหรับกรณีการขายลิขสิทธิ์ผลงานวิจัยวัคซีนไข้เลือดออกของมหาวิทยาลัยมหิดลให้แก่ต่างประเทศนั้น ศาสตราจารย์นายแพทย์ รัชตะ รัชตะนาวิน ชี้แจงว่า การพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออกนั้นเป็นงานวิจัยที่ ศูนย์วิจัยพัฒนาวัคซีน มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมพัฒนาโดยริเริ่มตั้งแต่สมัย ศาสตราจารย์ ดร.ณัฐ ภมรประวัติ เป็นอธิการบดี ซึ่งสมัยนั้นยังไม่มีใครคิดค้นได้ เนื่องจากไม่มีผู้สนับสนุน เพื่อการพัฒนาวัคซีนให้ได้เร็วขึ้น มหาวิทยาลัยมหิดลจึงได้ขายลิขสิทธิ์ตลาดบนหรือกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วให้แก่ประเทศญี่ปุ่น และขายให้แก่อินเดียในลิขสิทธิ์ตลาดล่างหรือกลุ่มประเทศด้อยพัฒนาและกำลังพัฒนา ถือเป็นความสำเร็จของการวิจัยและพัฒนา ที่นำนวัตกรรมจากการวิจัย ในห้องปฏิบัติการไปสู่ความร่วมมือในการผลิตระหว่างภาครัฐและเอกชน
นอกจากนี้ยังได้เชิญชวนให้ชาวมหาวิทยาลัยมหิดลติดตาม Mahidol Channel เพื่อติดตามความก้าวหน้าของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่สามารถรับชมได้หลายช่องทาง โดยสามารถ download application ไว้ดูทาง smart phone ได้แล้ววันนี้
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่

-----------------------------------------------------------------------------------


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น